ติดตั้งรหัสส่วนขยายและ URL การอัปเดตอย่างเงียบๆ
ภาษาของแอปพลิเคชัน
URL ที่แนะนำโดยผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ค่าตัวอย่าง:
เปิดใช้งานตัวจัดการรหัสผ่าน
ช่วยให้คุณระบุได้ว่าส่วนขยายใดที่ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้งได้ ส่วนขยายที่ติดตั้งแล้วจะถูกนำออกหากอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาต ค่ารายการที่ไม่อนุญาต * แสดงว่าส่วนขยายทั้งหมดถูกจัดอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาตจนกว่าจะมีการนำไปไว้ในรายการที่อนุญาตอย่างชัดเจน
ระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่ใช้นำเสนอผลลัพธ์ทันใจ URL ควรมีสตริง ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วยข้อความที่ผู้ใช้เคยป้อนไว้ในขณะค้นหา ระบุหรือไม่ก็ได้
รายการสกีมของโปรโตคอลที่ถูกปิดใช้งาน
การตั้งค่าตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เริ่มต้น
เปิดใช้งานการป้อนอัตโนมัติ
ช่วยให้คุณระบุได้ว่าส่วนขยายใดที่ไม่ขึ้นอยู่กับรายการที่ไม่อนุญาต ค่ารายการที่ไม่อนุญาต * แสดงว่าส่วนขยายทั้งหมดจัดอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาต และผู้ใช้สามารถติดตั้งได้เฉพาะส่วนขยายที่อยู่ในรายการที่อนุญาต ตามค่าเริ่มต้น ส่วนขยายทั้งหมดจะอยู่ในรายการที่อนุญาต แต่หากส่วนขยายทั้งหมดถูกจัดอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาตตามนโยบาย คุณสามารถใช้รายการที่อนุญาตเพื่อแทนที่นโยบายดังกล่าวได้
ตั้งแต่รุ่น
ปิดกั้นภาพบนไซต์เหล่านี้
กำหนดว่าผู้ใช้สามารถเปิดหน้าเว็บในโหมดไม่ระบุตัวตนได้หรือไม่ใน หากเลือก "เปิดใช้งาน" หน้าเว็บต่างๆ จะเปิดในโหมดไม่ระบุตัวตนได้ หากเลือก "ปิดใช้งาน" หน้าเว็บต่างๆ จะไม่สามารถเปิดในโหมดไม่ระบุตัวตน หากเลือก "บังคับ" หน้าเว็บต่างๆ จะถูกเปิดในโหมดไม่ระบุตัวตนเท่านั้น
จำนวนสูงสุดของการเชื่อมต่อพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์พร้อมกัน
ควบคุมว่าเนื้อหาย่อยของบุคคลที่สามบนหน้าเว็บได้รับอนุญาตให้แสดงป๊อปอัปช่องโต้ตอบการตรวจสอบสิทธิ์พื้นฐาน HTTP หรือไม่ ซึ่งโดยปกติจะถูกปิดใช้งานเพื่อป้องกันฟิชชิง
กำหนดค่านโยบายที่เกี่ยวข้องกับส่วนขยาย ผู้ใช้ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งส่วนขยายที่อยู่ในรายการที่ไม่อนุญาตนอกจากส่วนขยายนั้นจะถูกนำไปไว้ในรายการที่อนุญาต นอกจากนี้ คุณยังสามารถบังคับให้ ติดตั้งส่วนขยายโดยอัตโนมัติโดยระบุส่วนขยายไว้ใน รายการที่ไม่อนุญาตจะมีผลใช้งานเหนือรายการส่วนขยายที่บังคับให้ติดตั้ง
ระบุคำหลักซึ่งเป็นทางลัดที่ใช้ในแถบอเนกประสงค์เพื่อกระตุ้นการค้นหาของผู้ให้บริการรายนี้ ระบุหรือไม่ก็ได้
การนำเข้าหน้าแรกจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในการเรียกใช้งานครั้งแรก
เปิดใช้งานไฟร์วอลล์ Traversal จากโฮสต์สำหรับการเข้าถึงระยะไกล
ผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
อนุญาตให้ใช้ปลั๊กอินบนไซต์เหล่านี้
ระบุรายการปลั๊กอินที่ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดใช้งาน
ที่อยู่หรือ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์
ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์แบบคงที่
ปิดใช้งานเครื่องมือค้นหาปลั๊กอิน
ช่องเผยแพร่
ช่วยให้คุณระบุการทำงานเมื่อเริ่มต้นใช้งานได้ หากคุณเลือก "เปิดหน้าแรก" หน้าแรกจะถูกเปิดขึ้นมาเสมอเมื่อคุณเริ่มต้นใช้งาน หากคุณเลือก "เปิด URL ที่เคยเปิดครั้งล่าสุดอีกครั้ง" URL ที่เคยเปิดไว้ครั้งล่าสุดที่คุณปิด จะถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง หากคุณเลือก "เปิดรายการ URL" รายการ "URL ที่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน" จะถูกเปิดขึ้นมาเมื่อผู้ใช้เริ่มต้นใช้งาน หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน การปิดใช้งานการตั้งค่านี้จะมีค่าเท่ากับการปล่อยไว้โดยไม่กำหนดค่า ผู้ใช้จะยังสามารถเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ใน
ประเภทข้อมูล:
รายการปลั๊กอินที่เปิดใช้งาน
เปิดใช้งานการล็อกเมื่อไม่ได้ใช้งานหรือระงับใช้งานอุปกรณ์ Chrome OS ชั่วคราว หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ระบบจะถามรหัสผ่านจากผู้ใช้เพื่อปลดล็อกอุปกรณ์ Chrome OS จากโหมดสลีป หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ระบบจะไม่ถามรหัสผ่านจากผู้ใช้เพื่อปลุกอุปกรณ์ Chrome OS จากโหมดสลีป หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
เปิดใช้งานการใช้ STUN และรีเลย์เซิร์ฟเวอร์เมื่อไคลเอ็นต์ระยะไกลพยายามเชื่อมต่อกับเครื่องนี้ หากเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ไว้ ไคลเอ็นต์ระยะไกลจะสามารถค้นพบและเชื่อมต่อกับเครื่องนี้ได้แม้ว่าไคลเอ็นต์จะถูกไฟร์วอลล์กั้นไว้ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งานและการเชื่อมต่อ UDP ขาออกถูกกรองโดยไฟร์วอลล์ เครื่องนี้จะยอมให้มีการเชื่อมต่อจากเครื่องไคลเอ็นต์ภายในเครือข่าย LAN เท่านั้น
อนุญาตให้ผู้ใช้แสดงรหัสผ่านในตัวจัดการรหัสผ่าน
กำหนดค่าหน้าแรกเริ่มต้นใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนหน้าดังกล่าว การตั้งค่าหน้าแรกของผู้ใช้จะถูกล็อกโดยสมบูรณ์ หากคุณเลือกหน้าแรกเป็นหน้าแท็บใหม่ หรือตั้งค่าให้เป็น URL และระบุ URL ของหน้าแรก หากคุณไม่ได้ระบุ URL ของหน้าแรก ผู้ใช้จะยังสามารถตั้งค่าหน้าแรกเป็นหน้าแท็บใหม่โดยระบุ "chrome://newtab"
นำเข้าประวัติการเรียกดูจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในการเรียกใช้งานครั้งแรก
หน้าเริ่มต้นใช้งาน
นโยบายนี้บังคับให้นำเข้าประวัติการเรียกดูจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นปัจจุบันหากเปิดใช้งานไว้ หากปิดใช้งาน จะไม่มีการนำเข้าประวัติการเรียกดู หากไม่ได้กำหนดค่าไว้ จะใช้การทำงานที่เป็นค่าเริ่มต้น หากเปิดใช้งาน นโยบายนี้จะมีผลต่อช่องโต้ตอบของการนำเข้าด้วย
กำหนดค่าตัวจัดการรหัสผ่าน หากตัวจัดการรหัสผ่านถูกเปิดใช้งานไว้ คุณสามารถเลือกที่จะเปิดหรือปิดใช้งานว่าจะให้ผู้ใช้แสดงรหัสผ่านที่เก็บไว้เป็นข้อความที่ชัดเจนหรือไม่
การตั้งค่าภาพเริ่มต้น
ปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตน
อนุญาตให้ใช้ JavaScript บนไซต์เหล่านี้
ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ แสดงการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อป
เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์สำหรับไซต์เหล่านี้โดยอัตโนมัติ
ปิดใช้งานเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์
กำหนดค่ารายการส่วนขยายที่บังคับให้ติดตั้ง
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์เรียกใช้งานปลั๊กอินโดยอัตโนมัติหรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการใช้ปลั๊กอินที่ทำงานโดยอัตโนมัติสำหรับทุกเว็บไซต์
ปิดใช้งานโปรโตคอล SPDY ใน
เปิดใช้งาน Safe Browsing
ปิดกั้นปลั๊กอินบนไซต์เหล่านี้
อนุญาตให้ใช้คุกกี้เฉพาะเซสชันเท่านั้นบนไซต์เหล่านี้
ตัวจัดการรหัสผ่าน
ระบุว่าจะให้ Kerberos SPN ที่สร้างขึ้นรวมพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐานไว้หรือไม่ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้และป้อนพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐาน (เช่น พอร์ตอื่นๆ นอกจาก 80 หรือ 443) ลงไป พอร์ตดังกล่าวจะถูกรวมไว้ใน Kerberos SPN ที่สร้างขึ้น หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Kerberos SPN ที่สร้างขึ้นจะไม่รวมพอร์ตไม่ว่าในกรณีใด ๆ
เปิดใช้งานพร็อกซี
เปิดหรือปิดใช้งานการแก้ไขบุ๊กมาร์กใน หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ คุณจะสามารถเพิ่ม นำออก หรือแก้ไขบุ๊กมาร์ก นี่เป็นค่าเริ่มต้น หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ คุณจะสามารถเพิ่ม นำออก หรือแก้ไขบุ๊กมาร์ก แต่บุ๊กมาร์กที่มีอยู่ยังคงใช้งานได้ต่อไป
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งค่าคุกกี้
ตั้งค่า Chrome เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น
อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดแสดงภาพทั้งหมด
URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซี
ปิดใช้งานการซิงค์ข้อมูลใน โดยใช้บริการการซิงค์ที่โฮสต์บน Google และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
รหัสส่วนขยายที่ผู้ใช้ควรป้องกันไม่ให้มีการติดตั้ง (หรือ * สำหรับทั้งหมด)
อนุญาตให้เข้าถึงไฟล์ในเครื่องโดยการอนุญาตให้ แสดงช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะเปิดช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ได้ตามปกติ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ เมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้ดำเนินการที่อาจกระตุ้นให้ช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ปรากฏขึ้น (เช่น การนำเข้าบุ๊กมาร์ก การอัปโหลดไฟล์ การบันทึกลิงก์ ฯลฯ) ข้อความจะปรากฏขึ้นแทนโดยถือว่าผู้ใช้ได้คลิก ยกเลิก ในช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ไว้ หากไม่ได้ตั้งค่านี้ ผู้ใช้สามารถเปิดช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ได้ตามปกติ
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก
กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ จะใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ จะใช้ไดเรกทอรีที่ระบุ
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้แสดงภาพ
อนุญาตให้เรียกดูช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ได้
ใช่
ใช้เบราว์เซอร์โฮสต์โดยค่าเริ่มต้น
นำเข้าเครื่องมือค้นหาจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในการเรียกใช้งานครั้งแรก
กำหนดค่า URL ของหน้าแรก
เปิดใช้งานการบันทึกรหัสผ่านและการใช้รหัสผ่านที่บันทึกใน หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะสามารถกำหนดให้ จำรหัสผ่านและระบุรหัสผ่านให้โดยอัตโนมัติในครั้งต่อไปที่ผู้ใช้เข้าสู่ไซต์ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านหรือใช้รหัสผ่านที่บันทึกไว้แล้ว หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
ปิดใช้งานการค้นหา CNAME เมื่อมีการเจรจาตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos
เปิดใช้งานบริการ Google แปลภาษาในตัวใน หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ จะแสดงแถบเครื่องมือในตัวเพื่อเสนอการแปลหน้าเว็บให้แก่ผู้ใช้ในกรณีที่เหมาะสม หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่เห็นแถบการแปลดังกล่าว หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ จะใช้สำหรับการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ จะใช้ไดเรกทอรีที่ระบุโดยไม่คำนึงว่าผู้ใช้ได้ระบุการตั้งค่าสถานะ "--user-data-dir" ไว้หรือไม่
ความพร้อมใช้งานของโหมดไม่ระบุตัวตน
เปิดใช้งานหน้าเว็บแสดงข้อผิดพลาดสำรอง
ระบุชื่อผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น หากเว้นว่างไว้ ชื่อโฮสต์ที่ระบุไว้ตาม URL การค้นหาจะถูกนำมาใช้
ถูกกำหนดให้เลิกใช้
ปิดใช้งานการบันทึกประวัติเบราว์เซอร์
ถามทุกครั้งที่ไซต์ต้องการแสดงการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อป
ส่วนขยาย
ช่วยให้คุณระบุพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โดย และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าพร็อกซี หากคุณเลือกไม่ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อโดยตรงเสมอ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป หากคุณเลือกใช้การตั้งค่าพร็อกซีของระบบหรือตรวจจับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป หากคุณเลือกโหมดพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์แบบคงที่ คุณสามารถระบุตัวเลือกอื่นๆ ต่อไปได้ใน "ที่อยู่หรือ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์" และ "รายการกฎการข้ามพร็อกซีที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค" หากคุณเลือกที่จะใช้สคริปต์พร็อกซี .pac คุณต้องระบุ URL ไปยังสคริปต์ดังกล่าวใน "URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซี" สำหรับตัวอย่างโดยละเอียด โปรดไปที่: หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ จะข้ามตัวเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพร็อกซีที่ระบุจากบรรทัดคำสั่ง
ตรวจหาการตั้งค่าพร็อกซีอัตโนมัติ
เปิดหน้าแรก
นโยบายนี้บังคับให้นำเข้าบุ๊กมาร์กจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นปัจจุบันหากเปิดใช้งานไว้ หากปิดใช้งาน จะไม่มีการนำเข้าบุ๊กมาร์ก หากไม่ได้กำหนดค่าไว้ จะใช้การทำงานที่เป็นค่าเริ่มต้น หากเปิดใช้งาน นโยบายนี้จะมีผลต่อช่องโต้ตอบของการนำเข้าด้วย
ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดแสดงภาพ
รายการปลั๊กอินที่ปิดใช้งาน
เปิดรายการ URL
การตั้งค่าคุกกี้เริ่มต้น
เปิดใช้งานการใช้ผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหาเริ่มต้นจะดำเนินการเมื่อผู้ใช้พิมพ์ข้อความที่ไม่ใช่ URL ในแถบอเนกประสงค์ คุณสามารถระบุผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้นที่จะใช้โดยการตั้งค่านโยบายการค้นหาเริ่มต้นส่วนที่เหลือ หากเว้นว่างไว้ ผู้ใช้สามารถเลือกผู้ให้บริการเริ่มต้นได้ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหาจะดำเนินการไม่ได้เมื่อผู้ใช้ป้อนข้อความที่ไม่ใช่ URL ในแถบอเนกประสงค์ หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
กลับไปด้านบน
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์เรียกใช้ JavaScript หรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการเรียกใช้ JavaScript สำหรับทุกเว็บไซต์
ไม่มี
อนุญาตให้ไซต์ติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้
กำหนดค่า URL ของหน้าแรกเริ่มต้นใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนหน้าดังกล่าว คุณสามารถตั้งค่าชนิดของหน้าแรกเป็น URL ที่คุณระบุที่นี่ หรือตั้งค่าเป็นหน้าแท็บใหม่ หากคุณเลือกหน้าแท็บใหม่ นโยบายนี้จะถูกข้ามไป หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยน URL หน้าแรกของตนได้ใน แต่ยังสามารถเลือกหน้าแท็บใหม่เป็นหน้าแรกได้
ระบุการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเอง
เวอร์ชันเสถียร
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์แสดงภาพหรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการแสดงภาพสำหรับทุกเว็บไซต์
รหัสส่วนขยายที่ได้รับการยกเว้นจากรายการที่ไม่อนุญาต
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงภาพ
กำหนดค่าภาษาแอปพลิเคชันใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนภาษาดังกล่าว หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ จะใช้ภาษาที่ระบุ หากภาษาที่กำหนดค่าไว้ไม่ได้รับการสนับสนุน "en - US" จะถูกนำมาใช้แทน หากคุณปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่าการตั้งค่านี้ อาจใช้ภาษาที่ต้องการตามที่ผู้ใช้ระบุ (หากกำหนดค่าไว้) ภาษาของระบบ หรือภาษาทางเลือก "en - US"
อนุญาตให้เข้าถึงรายการ URL
การดำเนินการเมื่อเริ่มต้นใช้งาน
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ JavaScript
ระบุไลบรารี GSSAPI ที่จะใช้สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP คุณสามารถตั้งค่าเฉพาะชื่อไลบรารีหรือเส้นทางแบบเต็ม หากไม่มีการตั้งค่าใด จะกลับไปใช้ชื่อไลบรารีเริ่มต้น
นโยบายนี้บังคับให้นำเข้ารหัสผ่านที่บันทึกไว้จากเบราว์เซอร์เริ่มต้นปัจจุบันหากเปิดใช้งานไว้ หากปิดใช้งาน จะไม่มีการนำเข้ารหัสผ่านที่บันทึกไว้ หากไม่ได้กำหนดค่าไว้ จะใช้การทำงานที่เป็นค่าเริ่มต้น หากเปิดใช้งาน นโยบายนี้จะมีผลต่อช่องโต้ตอบของการนำเข้าด้วย
นโยบายนี้ถูกกำหนดให้เลิกใช้ โดยจะใช้ ProxyMode แทน ช่วยให้คุณระบุพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โดย และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าพร็อกซี หากคุณเลือกไม่ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อโดยตรงเสมอ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป หากคุณเลือกใช้การตั้งค่าพร็อกซีของระบบหรือตรวจจับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป หากคุณเลือกการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเอง คุณสามารถระบุตัวเลือกอื่นๆ ต่อไปใน "ที่อยู่หรือ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์" "URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซี" และ "รายการกฎการข้ามพร็อกซีที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค" สำหรับตัวอย่างโดยละเอียด โปรดไปที่: หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ จะข้ามตัวเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพร็อกซีที่ระบุจากบรรทัดคำสั่ง
ปิดกั้นคุกกี้ของบุคคลที่สาม การเปิดใช้งานการตั้งค่านี้จะป้องกันการตั้งค่าคุ้กกี้โดยองค์ประกอบของหน้าเว็บที่ไม่ได้มาจากโดเมนในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ การปิดใช้งานการตั้งค่านี้จะทำให้การตั้งค่าคุ้กกี้โดยองค์ประกอบของหน้าเว็บที่ไม่ได้มาจากโดเมนในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์สามารถกระทำได้ และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้
การตั้งค่าปลั๊กอินเริ่มต้น
Microsoft Windows XP SP2 หรือใหม่กว่า
จะข้ามพร็อกซีใด ๆ ของรายการโฮสต์ที่ระบุไว้ที่นี่ นโยบายนี้จะมีผลเฉพาะในกรณีที่คุณเลือกการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเองที่ "เลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์" สำหรับตัวอย่างโดยละเอียดเพิ่มเติม โปรดไปที่:
เวอร์ชันที่กำลังพัฒนา (อาจไม่เสถียร)
กฎการข้ามพร็อกซี
ตั้งค่าไดเรกทอรีข้อมูลผู้ใช้ของ
บังคับใช้โหมดไม่ระบุตัวตน
กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ จะใช้สำหรับจัดเก็บไฟล์ที่เก็บแคชลงในดิสก์ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ จะใช้ไดเรกทอรีที่ระบุโดยไม่คำนึงถึงว่าผู้ใช้ได้ระบุการตั้งค่าสถานะ "--disk-cache-dir" ไว้หรือไม่
หากคุณกำหนดการตั้งค่านี้เป็น "จริง" การค้นหาโดยอัตโนมัติและการติดตั้งปลั๊กอินที่หายไปจะถูกปิดใช้งานใน
เปิดใช้งาน ให้ทำหน้าที่เป็นพร็อกซีระหว่าง และเครื่องพิมพ์รุ่นเก่าที่เชื่อมต่ออยู่กับเครื่อง หากการตั้งค่านี้ถูกเปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่า ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานพร็อกซี Cloud Print โดยการตรวจสอบสิทธิ์กับบัญชี Google ของผู้ใช้ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งาน ผู้ใช้จะไม่สามารถเปิดใช้งานพร็อกซี และเครื่องจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องพิมพ์ของตนร่วมกับ
เปิดใช้งานการคาดการณ์เครือข่ายใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
ปิดใช้งานการสนับสนุน API ของกราฟิก 3 มิติ
ช่วยให้คุณสามารถระบุรายการของรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ ควรเลือกใบรับรองไคลเอ็นต์โดยอัตโนมัติ หากไซต์นั้นขอใบรับรอง
นี่คือรายการนโยบายที่ ปฏิบัติตาม คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้ด้วยตนเอง! คุณสามารถดาวน์โหลดแม่แบบที่ง่ายต่อการใช้งานได้จาก รายการนโยบายที่ได้รับการสนับสนุนของ Chromium และ Google Chrome จะเหมือนกัน แต่ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows จะแตกต่างกัน นโยบายของ Chromium จะขึ้นต้นด้วย ส่วนนโยบายของ Google Chrome จะขึ้นต้นด้วย
ค่ากำหนดของ
เปิดใช้งานไฟร์วอลล์ Traversal จากไคลเอ็นต์ที่เข้าถึงจากระยะไกล
อนุญาตให้นำการกำหนดค่าเครือข่ายการพุชไปใช้กับแต่ละผู้ใช้สำหรับอุปกรณ์ การกำหนดค่าเครือข่ายอยู่ในรูปแบบ JSON ตามที่ระบุไว้โดยรูปแบบการกำหนดค่าเครือข่ายเปิด ซึ่งมีอธิบายไว้ที่ https://sites.google.com/a/chromium.org/dev/chromium-os/chromiumos-design-docs/open-network-configuration
รายการที่อนุญาตสำหรับเซิร์ฟเวอร์การตรวจสอบสิทธิ์
อนุญาตให้แสดงป๊อปอัปบนไซต์เหล่านี้
เปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตน
อนุญาตให้ เรียกใช้ปลั๊กอินที่ต้องมีการให้สิทธิ์ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปลั๊กอินที่ยังไม่เก่าจะทำงานเสมอ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งานหรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะขออนุญาตจากผู้ใช้เพื่อเรียกใช้ปลั๊กอินที่ต้องมีการให้สิทธิ์ ปลั๊กอินเหล่านี้อาจทำให้ระบบผ่อนปรนเรื่องความปลอดภัยลง
รายการกฎการข้ามพร็อกซีที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค
เรียกใช้ปลั๊กอินที่ต้องมีการให้สิทธิ์เสมอ
หน้าแรก
เซิร์ฟเวอร์ที่ อาจมอบสิทธิ์ให้
คำอธิบาย
ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ ตั้งค่าข้อมูลในตัวเครื่อง
ปิดกั้นคุกกี้ของบุคคลที่สาม
ช่วยให้คุณระบุพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โดย และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าพร็อกซี หากคุณเลือกไม่ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อโดยตรงเสมอ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป หากคุณเลือกตรวจจับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป สำหรับตัวอย่างโดยละเอียด โปรดไปที่: หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ จะข้ามตัวเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพร็อกซีที่ระบุจากบรรทัดคำสั่ง
ระบุการเข้ารหัสอักขระที่ผู้ให้บริการการค้นหาสนับสนุน การเข้ารหัสเป็นชื่อหน้าของรหัสเช่น UTF - 8, GB2312, และ ISO - 8859 - 1 การเข้ารหัสเหล่านี้จะถูกลองใช้ตามลำดับที่ระบุ ค่าเริ่มต้นจะเป็น UTF - 8
นโยบายนี้จะแทนที่ตัวเลือกการตั้งค่าเนื้อหา "ล้างคุกกี้และข้อมูลไซต์อื่นๆ เมื่อฉันปิดเบราว์เซอร์ของฉัน" เมื่อกำหนดค่าเป็นจริง จะลบข้อมูลทั้งหมดที่เก็บไว้ในเครื่องออกจากเบราว์เซอร์เมื่อปิดเบราว์เซอร์
แสดงปุ่ม "หน้าแรก" บนแถบเครื่องมือ
กำหนดค่ารายการที่ไม่อนุญาตสำหรับการติดตั้งส่วนขยาย
ใช้หน้าแท็บใหม่เป็นหน้าแรก
ควบคุมว่าจะให้ผู้ใช้แสดงรหัสผ่านเป็นข้อความที่ชัดเจนในตัวจัดการรหัสผ่านหรือไม่ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ตัวจัดการรหัสผ่านจะไม่อนุญาตให้แสดงรหัสผ่านที่จัดเก็บไว้เป็นข้อความที่ชัดเจนในหน้าต่างตัวจัดการรหัสผ่าน หากคุณเปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่าการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะสามารถดูรหัสผ่านของตนเป็นข้อความที่ชัดเจนในตัวจัดการรหัสผ่าน
การตั้งค่าเนื้อหาช่วยให้คุณระบุวิธีจัดการเนื้อหาบางประเภท (เช่น คุกกี้ รูปภาพ หรือ JavaScript)
บล็อกการแจ้งเตือนในไซต์เหล่านี้
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
ชื่อไลบรารี GSSAPI
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ตั้งค่าข้อมูลภายในเครื่องหรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการตั้งค่าข้อมูลภายในเครื่องสำหรับทุกเว็บไซต์
URL ที่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
คุณสามารถระบุ URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซีที่นี่ นโยบายนี้จะมีผลเฉพาะเมื่อคุณได้เลือกการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเองที่ "เลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์" สำหรับตัวอย่างโดยละเอียด โปรดไปที่:
ปิดกั้นคุกกี้บนไซต์เหล่านี้
ข้อความแจ้งการตรวจสอบสิทธิ์พื้นฐาน HTTP ข้ามจุด
ล้างข้อมูลไซต์เมื่อปิดเบราว์เซอร์
ระบุว่าเซิร์ฟเวอร์ใดที่ควรอยู่ในรายการที่อนุญาตสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ในตัว การตรวจสอบสิทธิ์ในตัวจะเปิดใช้งานเฉพาะกรณีที่ ถูกขอตรวจสอบสิทธิ์จากพร็อกซีหรือจากเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในรายการที่ได้รับอนุญาตนี้ แยกชื่อเซิร์ฟเวอร์หลายชื่อโดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค อนุญาตให้ใช้สัญลักษณ์แทน (*) ได้
อนุญาตให้ จัดการประเภทเนื้อหาดังต่อไปนี้
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้แสดงการแจ้งเตือน
ช่วยให้คุณกำหนดค่าหน้าเว็บที่จะโหลดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน เนื้อหาของรายการ "URL ที่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน" จะถูกข้ามไปจนกว่าคุณจะเลือก "เปิดรายการ URL" ใน "การดำเนินการเมื่อเริ่มต้นใช้งาน"
นำเข้าบุ๊กมาร์กจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในการเรียกใช้งานครั้งแรก
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ JavaScript
ตั้งค่าไดเรกทอรีข้อมูลผู้ใช้
คำหลักของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
คุณสามารถระบุ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่นี่ นโยบายนี้จะมีผลเมื่อคุณได้เลือกการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเองที่ "เลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์" สำหรับตัวเลือกเพิ่มเติมและตัวอย่างโดยละเอียด โปรดไปที่:
เปิดใช้งานแปลภาษา
ระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่จะใช้เมื่อทำการค้นหาเริ่มต้น URL ควรมีสตริง "" ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วยข้อความค้นหาที่ผู้ใช้กำลังค้นหา
ถามเมื่อไซต์ต้องการติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้
ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ เรียกใช้ JavaScript
อนุญาตให้ไซต์แสดงการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อป
เปิดใช้งานการพิมพ์
ไอคอนของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
เปิดใช้งานคุณลักษณะ Safe Browsing ของ และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Safe Browsing จะทำงานอยู่เสมอ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Safe Browsing จะไม่ทำงานเลย หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
ชื่อนโยบาย
เปิดหรือปิดใช้งานการแก้ไขบุ๊กมาร์ก
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งค่าคุกกี้
เปิดใช้งานคำแนะนำในการค้นหาในแถบอเนกประสงค์ของ และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ คำแนะนำในการค้นหาจะถูกนำมาใช้ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ คำแนะนำในการค้นจะไม่ถูกนำมาใช้ หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
เปิดใช้งานการพิมพ์ใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากการตั้งค่านี้ถูกเปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่า ผู้ใช้จะสามารถพิมพ์งานได้ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งาน ผู้ใช้จะไม่สามารถพิมพ์จาก การพิมพ์จะถูกปิดใช้งานไว้ในเมนูเครื่องมือ ส่วนขยาย แอปพลิเคชันของ JavaScript ฯลฯ คุณยังสามารถพิมพ์จากปลั๊กอินที่ข้าม ในขณะพิมพ์ ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน Flash บางอย่างมีตัวเลือกการพิมพ์อยู่ในเมนูบริบท ซึ่งจะไม่ถูกปิดใช้งาน
กำหนดค่าผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น คุณสามารถระบุผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้นที่ผู้ใช้จะใช้หรือเลือกปิดใช้งานการค้นหาเริ่มต้น
ระบุจำนวนสูงสุดของการเชื่อมต่อไปยังพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์พร้อมกัน พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์บางตัวไม่สามารถจัดการกับการเชื่อมต่อพร้อมกันต่อหนึ่งไคลเอ็นต์ในจำนวนที่สูง ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยตั้งค่านโยบายนี้ให้มีค่าที่ต่ำลง ค่าของนโยบายนี้ควรจะต่ำกว่า 100 และสูงกว่า 6 และค่าเริ่มต้นเป็น 32 เป็นที่ทราบกันดีว่าเว็บแอปพลิเคชันบางตัวต้องใช้การเชื่อมต่อจำนวนมากเนื่องจากใช้ Hanging GET ดังนั้นการลดค่าให้ต่ำกว่า 32 อาจส่งผลให้การเชื่อมโยงเครือข่ายของเบราว์เซอร์ค้างได้ถ้าเปิดเว็บแอปพลิเคชันเป็นจำนวนมากเกินไป การลดค่าให้ต่ำลงดังกล่าวจึงเป็นความเสี่ยงของคุณเอง
สกีมการตรวจสอบสิทธิ์ที่ได้รับการสนับสนุน
เปิดใช้งานผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
การตั้งค่าการแจ้งเตือนเริ่มต้น
นโยบายนี้บังคับให้นำเข้าเครื่องมือค้นหาจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นปัจจุบันหากเปิดใช้งานไว้ หากปิดใช้งาน จะไม่มีการนำเข้าเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น หากไม่ได้กำหนดค่าไว้ จะใช้การทำงานที่เป็นค่าเริ่มต้น หากเปิดใช้งาน นโยบายนี้จะมีผลต่อช่องโต้ตอบของการนำเข้าด้วย
กำหนดค่าการตรวจสอบเบราว์เซอร์เริ่มต้นใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตรวจสอบดังกล่าว หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ จะตรวจสอบทุกครั้งที่เริ่มต้นใช้งานว่าตนเองเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นหรือไม่ และจะลงทะเบียนตนเองโดยอัตโนมัติหากทำได้ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งาน จะไม่ตรวจสอบว่าตนเองเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นหรือไม่ และจะปิดใช้งานการควบคุมโดยผู้ใช้สำหรับการตั้งค่าตัวเลือกนี้ หากไม่มีการกำหนดการตั้งค่านี้ จะอนุญาตให้ผู้ใช้ควบคุมได้ว่าจะให้ตนเองเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นหรือไม่ และควรแสดงการแจ้งเตือนผู้ใช้หรือไม่เมื่อตนเองไม่ได้เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น
แสดงรูปแบบ URL ต่อไปนี้เสมอในเบราว์เซอร์โฮสต์
บล็อกการเข้าถึงรายการ URL
การตั้งค่าป๊อปอัปเริ่มต้น
ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ แสดงป๊อปอัป
นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ในตัว
นโยบายนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ กรุณาใช้ IncognitoModeAvailability แทน เปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตนใน หากการตั้งค่านี้ถูกเปิดใช้งานหรือไม่ได้รับการกำหนดค่า ผู้ใช้สามารถเปิดหน้าเว็บในโหมดไม่ระบุตัวตนได้ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งาน ผู้ใช้จะไม่สามารถเปิดหน้าเว็บในโหมดไม่ระบุตัวตน
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์แสดงข้อความการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อปหรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการแสดงข้อความการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อปได้โดยค่าเริ่มต้น หรือจะให้มีการสอบถามผู้ใช้ทุกครั้งที่เว็บไซต์ต้องการแสดงข้อความการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อปก็ได้
ตั้งค่าไดเรกทอรีสำหรับแคชของดิสก์
ระบุระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่ใช้ในการสอบถามข้อมูลนโยบายผู้ใช้จากบริการจัดการอุปกรณ์ การตั้งค่านโยบายนี้จะลบล้างค่าเริ่มต้นจำนวน 3 ชั่วโมง ค่าที่ใช้ได้สำหรับนโยบายนี้อยู่ในช่วงตั้งแต่ 1800000 (30 นาที) ถึง 86400000 (1 วัน) ค่าใดๆ ที่ไม่อยู่ในช่วงนี้จะถูกจำกัดโดยขอบเขตที่เกี่ยวข้อง
ระบุว่า Kerberos SPN ที่สร้างขึ้นอ้างอิงจากชื่อ DNS แคนอนิคอลหรือชื่อเดิมที่ป้อน หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหา CNAME จะถูกข้ามไป และชื่อเซิร์ฟเวอร์เป็นชื่อที่ป้อน หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ชื่อแคนอนิคอลของเซิร์ฟเวอร์จะถูกกำหนดผ่านการค้นหา CNAME
บล็อกการเข้าถึง URL ที่ระบุไว้ นโยบายนี้จะป้องกันมิให้ผู้ใช้โหลดหน้าเว็บจาก URL ที่ถูกแบล็คลิสต์ไว้ โดย URL มีรูปแบบคือ "สกีม://โฮสต์:พอร์ต/เส้นทาง" สกีมตัวเลือกสามารถจะเป็น http, https หรือ ftp ก็ได้ โดยมีเพียงสกีมนี้เท่้านั้นที่จะถูกบล็อก หากไม่มีการระบุสกีมใดๆ สกีมทั้งหมดจะถูกบล็อก โฮสต์สามารถจะเป็นได้ทั้งชื่อโฮสต์หรือที่อยู่ IP โดเมนย่อยของชื่อโฮสต์จะถูกบล็อกด้วย หากต้องการป้องกันการบล็อกโดเมนย่อย ให้ใส่ "." หน้าชื่อโฮสต์ ชื่อโฮสต์พิเศษ "*" จะบล็อกโดเมนทั้งหมด พอร์ตตัวเลือกสามารถจะเป็นหมายเลขพอร์ตที่ถูกต้องจาก 1 ถึง 65535 หากไม่มีการระบุพอร์ตใดๆ พอร์ตทั้งหมดจะถูกบล็อก หากมีการระบุเส้นทางตัวเลือก เส้นทางที่มีอักษรนำหน้าดังกล่าวเท่านั้นที่จะถูกบล็อก ข้อยกเว้นสามารถกำหนดได้ในนโยบายการยอมรับ URL นโยบายเหล่านี้ถูกจำกัดที่ 100 รายการ โดยรายการที่อยู่หลังจากนั้นจะถูกเพิกเฉย
พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์
อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดแสดงป๊อปอัป
ปิดกั้นปลั๊กอินทั้งหมด
ปิดกั้นป๊อปอัปบนไซต์เหล่านี้
เปิดใช้งานค้นหาทันใจ
อนุญาตให้เรียกใช้ปลั๊กอินที่เก่าแล้ว
ปิดใช้งานการสนับสนุนสำหรับ API ของกราฟิก 3 มิติ การเปิดใช้งานการตั้งค่านี้จะป้องกันไม่ให้หน้าเว็บเข้าถึงหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน้าเว็บที่ไม่สามารถเข้าถึง WebGL API และปลั๊กอินจะไม่สามารถใช้ API ของ Pepper 3 มิติ การปิดใช้งานการตั้งค่านี้อาจอนุญาตให้หน้าเว็บใช้ WebGL API และปลั๊กอินที่จะใช้ API ของ Pepper 3 มิติ การตั้งค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์อาจยังต้องการอาร์กิวเมนต์บรรทัดคำสั่งที่จะถูกส่งผ่านไปเพื่อใช้ API เหล่านี้
อนุญาตให้ทุกไซต์ตั้งค่าข้อมูลภายในเครื่อง
การกำหนดค่าเครือข่ายระดับผู้ใช้
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งค่าคุกกี้เฉพาะเซสชันเท่านั้น
URL การค้นหาของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ปิดใช้งานสกีมโปรโตคอล URL
เปิด URL ที่ถูกเปิดล่าสุดอีกครั้ง
ระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่ใช้แสดงคำแนะนำในการค้นหา URL ควรมีสตริง "" ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วยข้อความที่ผู้ใช้เคยป้อนในขณะค้นหา ระบุหรือไม่ก็ได้
URL ค้นหาทันใจของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
นโยบายนี้บังคับให้นำเข้าหน้าแรกจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นปัจจุบันหากเปิดใช้งานไว้ หากปิดใช้งาน จะไม่มีการนำเข้าหน้าแรก หากไม่ได้กำหนดค่าไว้ จะใช้การทำงานที่เป็นค่าเริ่มต้น
ได้รับการสนับสนุนบน:
เปิดใช้งานคุณลักษณะค้นหาทันใจของ และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหาทันใจของ จะถูกเปิดใช้งาน หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหาทันใจของ จะถูกปิดใช้งาน หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้
การเข้ารหัสของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ระบุรายการปลั๊กอินที่เปิดใช้งานใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ คุณสามารถใช้อักขระของสัญลักษณ์แทน "*" และ "?" เพื่อจับคู่ลำดับอักขระที่กำหนดเอง "*" จะจับคู่กับจำนวนอักขระที่กำหนดเอง ส่วน "?" จะระบุอักขระเดี่ยวที่เป็นตัวเลือก เช่น การจับคู่กับเลข 0 หรืออักขระตัวหนึ่ง อักขระ หลีก คือ "\" ดังนั้นหากต้องการจับคู่อักขระ "*", "?" หรือ "\" จริง คุณสามารถใส่ "\" ไว้หน้าอักขระเหล่านั้นได้ รายการปลั๊กอินที่ระบุจะถูกนำมาใช้ใน หากมีการติดตั้งไว้ ปลั๊กอินจะถูกทำเครื่องหมายเป็นเปิดใช้งานใน "about:plugins" และผู้ใช้ไม่สามารถปิดใช้งานปลั๊กอินเหล่านั้นได้ โปรดทราบว่านโยบายนี้จะแทนที่ทั้ง DisabledPlugins และ DisabledPluginsExceptions
เปิดใช้งานการคาดการณ์เครือข่าย
คำอธิบาย:
กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ จะใช้สำหรับการดาวน์โหลดไฟล์ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ จะใช้ไดเรกทอรีที่ระบุโดยไม่คำนึงถึงว่าผู้ใช้ได้ระบุไว้แล้วหรือไม่ หรือได้เปิดใช้งานการตั้งค่าสถานะที่จะปรากฏขึ้นเพื่อให้ระบุตำแหน่งการดาวน์โหลดทุกครั้งหรือไม่
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดป๊อปอัป
โปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นสำหรับ
รายการยกเว้นสำหรับรายการของปลั๊กอินที่ถูกปิดใช้งาน
ตั้งค่าไดเรกทอรีสำหรับดาวน์โหลด
เมื่อกำหนดค่าเป็น True การส่งเสริมสำหรับแอปพลิเคชัน Chrome เว็บสโตร์จะไม่ปรากฏบนหน้าแท็บใหม่
ระบุรายการปลั๊กอินที่เปิดใช้งาน
นำเข้ารหัสผ่านที่บันทึกไว้จากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในการเรียกใช้งานครั้งแรก
ปิดใช้งานการบันทึกประวัติเบราว์เซอร์ใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากการตั้งค่านี้ถูกเปิดใช้งาน ประวัติการเรียกดูจะไม่ได้รับการบันทึก หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่า ประวัติการเรียกดูจะได้รับการบันทึกไว้
อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดเรียกใช้ JavaScript
อนุญาตให้นำการกำหนดค่าเครือข่ายการพุชไปใช้กับผู้ใช้ทั้งหมดสำหรับอุปกรณ์ การกำหนดค่าเครือข่ายอยู่ในรูปแบบ JSON ตามที่ระบุไว้โดยรูปแบบการกำหนดค่าเครือข่ายเปิด ซึ่งมีอธิบายไว้ที่ https://sites.google.com/a/chromium.org/dev/chromium-os/chromiumos-design-docs/open-network-configuration
เปิดใช้งานแถบบุ๊กมาร์กใน หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ จะแสดงแถบบุ๊กมาร์ก หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่เห็นแถบบุ๊กมาร์ก หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
ปิดใช้งานการซิงค์ข้อมูลกับ Google
การตั้งค่าเนื้อหา
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ปลั๊กอิน
แสดงปุ่ม "หน้าแรก" บนแถบเครื่องมือของ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปุ่ม "หน้าแรก" จะแสดงเสมอ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปุ่ม "หน้าแรก" จะไม่แสดง หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
แสดงรูปแบบ URL ต่อไปนี้ใน
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ปลั๊กอิน
กำหนดค่ารายการที่อนุญาตสำหรับการติดตั้งส่วนขยาย
เลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์
ใช้การตั้งค่าพร็อกซีของระบบ
เปิดใช้งาน JavaScript
อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดเรียกใช้ปลั๊กอินโดยอัตโนมัติ
ระบุว่าเครื่องมือค้นหาปลั๊กอินควรจะปิดใช้งานหรือไม่
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์แสดงป๊อปอัปหรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการแสดงป๊อปอัปสำหรับทุกเว็บไซต์
โหมดไม่ระบุตัวตนพร้อมใช้งาน
ชื่อผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
อัตราการรีเฟรชสำหรับนโยบายผู้ใช้
รายการที่อนุญาตสำหรับเซิร์ฟเวอร์การมอบสิทธิ์ของ Kerberos
ระบุว่าสกีมการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ใดที่จะได้รับการสนับสนุนโดย ค่าที่เป็นไปได้คือ "basic", "digest", "ntlm" และ "negotiate" แยกค่าต่างๆ โดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ปิดใช้งานเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และคอนโซล JavaScript หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์จะไม่สามารถเข้าถึงได้ และองค์ประกอบในเว็บไซต์จะไม่ได้รับการตรวจสอบอีกต่อไป แป้นพิมพ์ลัดและเมนูใดๆ หรือรายการเมนูบริบทที่ใช้เปิดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือคอนโซล JavaScript จะถูกปิดใช้งาน
ปิดใช้งานสกีมโปรโตคอลที่แสดงรายการใน URL ที่ใช้สกีมจากรายการนี้้จะไม่สามารถโหลดและคุณไม่สามารถสำรวจไปยัง URL เหล่านั้นได้
เปิดใช้งานการใช้ STUN และรีเลย์เซิร์ฟเวอร์ขณะเชื่อมต่อกับไคลเอ็นต์ระยะไกล หากเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ไว้ เครื่องนี้จะสามารถค้นพบและเชื่อมต่อกับเครื่องโฮสต์ระยะไกลได้แม้ว่าเครื่องโฮสต์ระยะไกลจะถูกไฟร์วอลล์กั้นไว้ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งานและการเชื่อมต่อ UDP ขาออกถูกกรองโดยไฟร์วอลล์ เครื่องนี้จะสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องโฮสต์ภายในเครือข่าย LAN เท่านั้น
ปิดใช้งานโปรโตคอล SPDY
ระบุรายการปลั๊กอินที่ปิดใช้งาน
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้หรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้โดยค่าเริ่มต้น หรือจะให้สอบถามผู้ใช้ทุกครั้งที่หน้าเว็บไซต์เรียกขอตำแหน่งทางกายภาพก็ได้
กำหนดค่ารายการรูปแบบ URL ที่ควรแสดงโดย สำหรับตัวอย่างรูปแบบ โปรดดูที่ http://www.chromium.org/developers/how-tos/chrome-frame-getting-started
เปิดใช้งานการรายงานการใช้และข้อมูลเกี่ยวกับการขัดข้อง
อนุญาตให้แสดงภาพบนไซต์เหล่านี้
ช่วยให้คุณตั้งค่ารายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดป๊อปอัป
ระบุช่องทางสำหรับรุ่นแรกที่อุปกรณ์นี้ควรจะถูกล็อกไว้ นโยบายนี้กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำ ปัจจุบันนี้ผู้ใช้ยังคงสามารถเปลี่ยนช่องทางสำหรับรุ่นแรกได้แม้ว่าจะถูกกำหนดไว้ในนโยบาย
ใช้สคริปต์พร็อกซี .pac
จนถึงรุ่น
เปิดใช้งานคำแนะนำในการค้นหา
อัตราการรีเฟรชสำหรับนโยบายอุปกรณ์
เปิดใช้งานแถบบุ๊กมาร์ก
ช่วยให้คุณกำหนดค่าโปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นเมื่อติดตั้ง การตั้งค่าเริ่มต้นจะอนุญาตให้เบราว์เซอร์โฮสต์แสดงผล แต่คุณเลือกแทนที่การตั้งค่านี้ได้และให้ แสดงผลหน้า HTML โดยค่าเริ่มต้น
ช่วยให้คุณกำหนดค่าโปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นเมื่อติดตั้ง การตั้งค่าเริ่มต้นจะอนุญาตให้เบราว์เซอร์โฮสต์แสดงผล แต่คุณเลือกแทนที่การตั้งค่านี้ได้และให้ แสดงผลหน้า HTML โดยค่าเริ่มต้น
ป้องกันไม่ให้การส่งเสริมของแอปพลิเคชันไปปรากฏบนหน้าแท็บใหม่
อนุญาตการแจ้งเตือนในไซต์เหล่านี้
กำหนดค่ารายการรูปแบบ URL ที่ควรแสดงโดยเบราว์เซอร์โฮสต์ สำหรับรูปแบบตัวอย่าง โปรดดูที่ http://www.chromium.org/developers/how-tos/chrome-frame-getting-started
ระบุระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่ใช้ในการสอบถามข้อมูลนโยบายอุปกรณ์จากบริการจัดการอุปกรณ์ การตั้งค่านโยบายนี้จะลบล้างค่าเริ่มต้นจำนวน 3 ชั่วโมง ค่าที่ใช้ได้สำหรับนโยบายนี้อยู่ในช่วงตั้งแต่ 1800000 (30 นาที) ถึง 86400000 (1 วัน) ค่าใดๆ ที่ไม่อยู่ในช่วงนี้จะถูกจำกัดโดยขอบเขตที่เกี่ยวข้อง
กำหนดค่าตัวเลือกการเข้าถึงระยะไกล
ระบุรายการปลั๊กอินที่ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดใช้งานใน คุณสามารถใช้อักขระของสัญลักษณ์แทน "*" และ "?" เพื่อจับคู่ลำดับอักขระที่กำหนดเอง "*" จะจับคู่กับจำนวนอักขระที่กำหนดเอง ส่วน "?" จะระบุอักขระเดี่ยวที่เป็นตัวเลือก เช่น การจับคู่กับเลข 0 หรืออักขระตัวหนึ่ง อักขระหลีก คือ "\" ดังนั้นหากต้องการจับคู่อักขระ "*", "?" หรือ "\" จริง คุณสามารถใส่ "\" ไว้หน้าอักขระเหล่านั้นได้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ รายการปลั๊กอินที่ระบุจะถูกนำมาใช้ใน ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดใช้งานปลั๊กอินเหล่านั้นใน "about:plugins" แม้ว่าปลั๊กอินจะจับคู่ตรงกับรูปแบบใน DisabledPlugins นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเปิดหรือปิดใช้งานปลั๊กอินที่ไม่ตรงกับรูปแบบใดๆ ใน DisabledPlugins, DisabledPluginsExceptions และ EnabledPlugins
อนุญาตให้ เรียกใช้ปลั๊กอินที่เก่าแล้ว หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปลั๊กอินเก่าจะถูกนำมาใช้เป็นปลั๊กอินปกติ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปลั๊กอินเก่าจะไม่ถูกใช้ และระบบจะไม่สอบถามสิทธิ์ในการเรียกใช้ปลั๊กอินเก่าจากผู้ใช้ หากคุณไม่ได้กำหนดการตั้งค่านี้ ระบบจะสอบถามสิทธิ์ในการเรียกใช้ปลั๊กอินเก่าจากผู้ใช้
กำหนดค่าตัวเลือกการเข้าถึงระยะไกลใน คุณลักษณะเหล่านี้จะถูกละเว้นไปถ้าไม่มีการติดตั้งเว็บแอปพลิเคชันสำหรับการเข้าถึงระยะไกล
ช่วยให้คุณระบุรายการส่วนขยายที่จะได้รับการติดตั้งอย่างเงียบๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องดำเนินการ ส่วนขยายแต่ละอย่างจะเป็นสตริงที่ประกอบด้วยรหัสส่วนขยายและ URL การอัปเดตที่คั่นด้วยเครื่องหมายอัฒภาค () ตัวอย่างเช่น: สำหรับส่วนขยายแต่ละอย่าง จะเรียกส่วนขยายจาก URL ที่ระบุโดยดูจากรหัสและติดตั้งอย่างเงียบๆ หน้าต่อไปนี้จะอธิบายวิธีโฮสต์ส่วนขยายบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณเอง เกี่ยวกับ URL การอัปเดต: เกี่ยวกับการโฮสต์ส่วนขยายโดยทั่วไป: ผู้ใช้จะไม่สามารถถอนการติดตั้งส่วนขยายที่ระบุโดยนโยบายนี้ หากคุณนำส่วนขยายออกจากรายการ ส่วนขยายจะถูกถอนการติดตั้งโดย โดยอัตโนมัติ ส่วนขยายที่ถูกจัดอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาตใน “ExtensionInstallBlacklist” และไม่อยู่ในรายการที่อนุญาตจะไม่สามารถบังคับให้ติดตั้งโดยนโยบายนี้
ระบุ URL ไอคอนโปรดของของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น ระบุหรือไม่ก็ได้
ใช้ โดยค่าเริ่มต้น
ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ ติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้
การตั้งค่า JavaScript เริ่มต้น
ปิดกั้น JavaScript บนไซต์เหล่านี้
หากเลือก "เปิดรายการ URL" เป็นการดำเนินการเมื่อเริ่มต้นใช้งาน ตัวเลือกนี้จะช่วยให้คุณระบุรายการ URL ที่จะเปิดได้
รวมพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐานใน Kerberos SPN
ไม่ใช้พร็อกซี
การกำหนดค่าเครือข่ายระดับอุปกรณ์
URL ของหน้าแรก
เปิดใช้งานการรายงานการใช้และข้อมูลเกี่ยวกับการขัดข้องของ โดยไม่ระบุชื่อไปยัง Google และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การรายงานการใช้และข้อมูลเกี่ยวกับการขัดข้องโดยไม่ระบุชื่อจะถูกส่งไปยัง Google หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การรายงานการใช้และข้อมูลเกี่ยวกับการขัดข้องโดยไม่ระบุชื่อจะไม่ถูกส่งไปยัง Google หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
เปิดใช้งานการล็อกเมื่อไม่ได้ใช้งานหรือระงับใช้อุปกรณ์ Chrome OS ชั่วคราว
ช่วยให้สามารถใช้หน้าแสดงข้อผิดพลาดสำรองที่ถูกสร้างขึ้นใน (เช่น "ไม่พบหน้าเว็บ") และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าแสดงข้อผิดพลาดสำรองจะถูกนำมาใช้ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าแสดงข้อผิดพลาดสำรองจะไม่ถูกนำมาใช้ หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน
นโยบายในการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP
เวอร์ชันเบต้า
เปิดใช้งานคุณลักษณะป้อนอัตโนมัติของ และช่วยให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเว็บฟอร์มอัตโนมัติโดยใช้ข้อมูลที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ เช่น ที่อยู่หรือข้อมูลบัตรเครดิต หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะใช้งานการป้อนอัตโนมัติไม่ได้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้หรือไม่ได้กำหนดค่า การป้อนอัตโนมัติจะอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขากำหนดค่าโปรไฟล์ป้อนอัตโนมัติและปิดหรือเปิดการป้อนอัตโนมัติได้ตามที่ผู้ใช้เห็นสมควร
กำหนดค่าประเภทของหน้าแรกเริ่มต้นใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนค่ากำหนดหน้าแรก หน้าแรกสามารถตั้งค่าเป็น URL ที่คุณระบุหรือตั้งค่าเป็นหน้าแท็บใหม่ก็ได้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าแท็บใหม่จะถูกใช้เป็นหน้าแรกเสมอ และตำแหน่ง URL ของหน้าแรกจะถูกข้ามไป หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าแรกของผู้ใช้จะไม่ใช่หน้าแท็บใหม่จนกว่าจะตั้งค่า URL เป็น "chrome://newtab" หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนประเภทหน้าแรกของพวกเขาใน
ช่วยให้สามารถเข้าถึง URL ที่ระบุไว้ในฐานะข้อยกเว้นของแบล็คลิสต์ของ URL ให้ดูรายละเอียดของนโยบายแบล็คลิสต์ของ URL สำหรับรูปแบบของข้อความในรายการนี้ นโยบายนี้สามารถใช้ในการเปิดข้อยกเว้นไปยังแบล็คลิสต์ที่มีข้อจำกัด ตัวอย่างเช่น "*" อาจถูกจัดไว้ในแบล็คลิสต์เพื่อบล็อกการร้องขอทั้งหมด และนโยบายนี้สามารถนำมาใช้เพื่อให้สามารถเข้าถึงรายการ URL ที่ถูกจำกัด สามารถใช้เพื่อเปิดข้อยกเว้นให้แก่บางสกีม โดเมนย่อยของโดเมนอื่นๆ พอร์ต หรือเส้นทางที่เฉพาะเจาะจง ตัวกรองที่เฉพาะเจาะจงมากที่สุดจะกำหนดว่า URL จะถูกบล็อกหรือได้รับอนุญาต รายการที่ได้รับการยอมรับจะมีความสำคัญเหนือแบล็คลิสต์ นโยบายนี้ถูกจำกัดไว้ที่ 100 รายการ โดยรายการหลังจากนั้นจะถูกเพิกเฉย
อนุญาตให้ใช้คุกกี้บนไซต์เหล่านี้
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้แสดงการแจ้งเตือน
เปิดใช้งาน JavaScript ใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้หรือไม่ได้กำหนดค่า หน้าเว็บจะสามารถใช้ JavaScript ได้ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าเว็บจะไม่สามารถใช้ JavaScript
ระบุรายการปลั๊กอินที่ถูกปิดใช้งานใน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ คุณสามารถใช้อักขระของสัญลักษณ์แทน "*" และ "?" เพื่อจับคู่ลำดับอักขระที่กำหนดเอง "*" จะจับคู่กับจำนวนอักขระที่กำหนดเอง ส่วน "?" จะระบุอักขระเดี่ยวที่เป็นตัวเลือก เช่น การจับคู่กับเลข 0 หรืออักขระตัวหนึ่ง อักขระหลีก คือ "\" ดังนั้นหากต้องการจับคู่อักขระ "*", "?" หรือ "\" จริง คุณสามารถใส่ "\" ไว้หน้าอักขระเหล่านั้นได้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ รายการปลั๊กอินที่ระบุจะไม่ถูกนำมาใช้ใน ปลั๊กอินจะถูกทำเครื่องหมายเป็นปิดใช้งานใน "about:plugins" และผู้ใช้ไม่สามารถเปิดใช้งานปลั๊กอินเหล่านั้นได้ โปรดทราบว่านโยบายสามารถแทนที่โดย EnabledPlugins และ DisabledPluginsExceptions