summaryrefslogtreecommitdiffstats
path: root/components/policy/resources/policy_templates_th.xtb
diff options
context:
space:
mode:
Diffstat (limited to 'components/policy/resources/policy_templates_th.xtb')
-rw-r--r--components/policy/resources/policy_templates_th.xtb80
1 files changed, 40 insertions, 40 deletions
diff --git a/components/policy/resources/policy_templates_th.xtb b/components/policy/resources/policy_templates_th.xtb
index add66c4..ea8a151 100644
--- a/components/policy/resources/policy_templates_th.xtb
+++ b/components/policy/resources/policy_templates_th.xtb
@@ -48,7 +48,7 @@
หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น False จะไม่มีการรายงานสถานะของสวิตช์นักพัฒนาซอฟต์แวร์</translation>
<translation id="1160939557934457296">ปิดใช้งานการดำเนินการต่อจากหน้าคำเตือน Safe Browsing</translation>
-<translation id="1198465924256827162">ความถี่ในการส่งการอัปโหลดสถานะของอุปกรณ์เป็นมิลลิวินาที
+<translation id="1198465924256827162">ความถี่ในการส่งการอัปโหลดสถานะของอุปกรณ์ หน่วยเป็นมิลลิวินาที
หากไม่ตั้งค่านโยบายนี้ ความถี่เริ่มต้นคือ 3 ชั่วโมง ค่าความถี่ต่ำสุด
ที่อนุญาตคือ 60 วินาที</translation>
@@ -369,9 +369,9 @@
หากนโยบายนี้ได้รับการตั้งค่าเป็น False จะไม่สามารถข้ามการเข้าสู่ระบบอัตโนมัติแบบมีความล่าช้าเป็นศูนย์ได้ (หากมีการกำหนดค่า)</translation>
<translation id="2463365186486772703">ภาษาของแอปพลิเคชัน</translation>
-<translation id="2466131534462628618">การตรวจสอบสิทธิ์แคปทีฟพอร์ทัลจะละเว้นพร็อกซี</translation>
+<translation id="2466131534462628618">การตรวจสอบสิทธิ์ของแคพทีฟพอร์ทัลจะข้ามพร็อกซีไป</translation>
<translation id="2482676533225429905">การรับส่งข้อความดั้งเดิม</translation>
-<translation id="2483146640187052324">คาดการณ์การทำงานของเครือข่ายจากการเชื่อมต่อของเครือข่ายต่างๆ</translation>
+<translation id="2483146640187052324">คาดการณ์การทำงานของเครือข่ายจากการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ</translation>
<translation id="2488010520405124654">เปิดใช้พรอมต์การกำหนดค่าเครือข่ายเมื่อออฟไลน์
หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้หรือมีการตั้งค่าเป็น "จริง" และบัญชีในตัวอุปกรณ์ได้รับการกำหนดค่าสำหรับการเข้าสู่ระบบอัตโนมัติแบบไม่ล่าช้า และอุปกรณ์ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงพรอมต์การกำหนดค่าเครือข่าย
@@ -403,7 +403,6 @@
<translation id="2592091433672667839">ระยะเวลาการไม่ใช้งานก่อนที่โปรแกรมรักษาหน้าจอจะแสดงขึ้นบนหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ในโหมดปลีก</translation>
<translation id="2623014935069176671">รอกิจกรรมเริ่มต้นของผู้ใช้</translation>
<translation id="262740370354162807">เปิดใช้งานการส่งเอกสารไปยัง <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /></translation>
-<translation id="2629448496147630947">กำหนดค่าตัวเลือกการเข้าถึงระยะไกลใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> คุณลักษณะเหล่านี้จะถูกละเว้นไปถ้าไม่มีการติดตั้งเว็บแอปพลิเคชันสำหรับการเข้าถึงระยะไกล</translation>
<translation id="2633084400146331575">เปิดใช้งานการตอบสนองด้วยเสียง</translation>
<translation id="2646290749315461919">ช่วยให้คุณกำหนดว่าเว็บไซต์จะได้รับอนุญาตให้ติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้หรือไม่ การติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้สามารถได้รับอนุญาตตามค่าเริ่มต้น ปฏิเสธโดยค่าเริ่มต้น หรือระบบสามารถถามผู้ใช้ทุกครั้งที่เว็บไซต์ขอตำแหน่งทางกายภาพ หากนโยบายนี้ไม่มีการตั้งค่าไว้ จะมีการใช้ "AskGeolocation" และผู้ใช้สามารถจะเปลี่ยนแปลงได้</translation>
<translation id="2650049181907741121">การทำงานของอุปกรณ์เมื่อผู้ใช้ปิดฝา</translation>
@@ -472,9 +471,9 @@
ExtensionInstallBlacklist จะมีความสำคัญเหนือนโยบายนี้ ซึ่งหมายความว่า ส่วนขยายในบัญชีดำจะไม่ถูกติดตั้ง แม้ว่าจะปรากฏอยู่ในไซต์ในรายการนี้ก็ตาม</translation>
<translation id="2824715612115726353">เปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตน</translation>
-<translation id="2844404652289407061">เปิดใช้ตัวเลือกแตะเพื่อค้นหาในมุมมองเนื้อหาของ <ph name="PRODUCT_NAME" />
+<translation id="2844404652289407061">เปิดใช้ตัวเลือก "แตะเพื่อค้นหา" ในมุมมองเนื้อหาของ <ph name="PRODUCT_NAME" />
- หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ แตะเพื่อค้นหาจะมีให้ผู้ใช้เลือกใช้ แล้วผู้ใช้จะสามารถเลือกว่าจะเปิดหรือปิดคุณลักษณะ
+ หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ แตะเพื่อค้นหาจะมีให้ผู้ใช้เลือกใช้ ผู้ใช้สามารถเลือกว่าจะเปิดหรือปิดคุณลักษณะนี้ได้
หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้ แตะเพื่อค้นหาจะถูกปิดใช้ทั้งหมด
@@ -540,7 +539,7 @@
<translation id="3153348162326497318">ช่วยให้คุณสามารถระบุส่วนขยายที่ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้ง ส่วนขยายที่ติดตั้งไว้แล้วจะถูกลบหากอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาต ค่ารายการที่ไม่อนุญาต "*" หมายถึงส่วนขยายทั้งหมดอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาตนอกจากว่าจะได้รับการระบุไว้อย่างชัดเจนในรายการที่อนุญาต หากนโยบายนี้ไม่มีการตั้งค่าไว้ ผู้ใช้จะสามารถติดตั้งส่วนขยายใดก็ได้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation>
<translation id="316778957754360075">การตั้งค่านี้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 29 วิธีที่แนะนำในการตั้งค่าคอลเล็กชันส่วนขยาย/แอปที่โฮสต์โดยองค์กรคือการรวมไซต์ที่โฮสต์แพ็กเกจ CRX ใน ExtensionInstallSources และการวางลิงก์ดาวน์โหลดโดยตรงไปยังแพ็กเกจบนหน้าเว็บ ตัวเรียกใช้งานสำหรับหน้าเว็บนั้นสามารถถูกสร้างขึ้นโดยใช้นโยบาย ExtensionInstallForcelist</translation>
<translation id="3185009703220253572">ตั้งแต่รุ่น <ph name="SINCE_VERSION" /></translation>
-<translation id="3205825995289802549">ปรับขนาดหน้าต่างเบราว์เซอร์บานแรกให้ใหญ่ที่สุดเมื่อเรียกใช้งานครั้งแรก</translation>
+<translation id="3205825995289802549">ขยายขนาดหน้าต่างเบราว์เซอร์บานแรกให้ใหญ่ที่สุดเมื่อเรียกใช้งานครั้งแรก</translation>
<translation id="3206731874112238027">ปิดใช้หน้าตัวอย่างก่อนพิมพ์ (เลิกใช้แล้ว)</translation>
<translation id="3213821784736959823">ควบคุมว่าจะใช้ไคลเอ็นต์ DNS ในตัวใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> หรือไม่
@@ -680,7 +679,7 @@
หากมีการระบุ จะมีการเพิ่มพารามิเตอร์การค้นหาชื่อ "ข้อจำกัด" ลงใน URL ที่ใช้เรียกข้อมูลเริ่มต้นของรูปแบบ ค่าพารามิเตอร์จะเป็นค่าที่ระบุในนโยบายนี้
หากไม่มีการระบุ จะไม่มีการแก้ไข URL ข้อมูลเริ่มต้นของรูปแบบ</translation>
-<translation id="3863409707075047163">เวอร์ชัน SSL ต่ำสุดที่เปิดใช้</translation>
+<translation id="3863409707075047163">เวอร์ชัน SSL ขั้นต่ำที่เปิดใช้</translation>
<translation id="3864818549971490907">การตั้งค่าปลั๊กอินเริ่มต้น</translation>
<translation id="3866249974567520381">คำอธิบาย</translation>
<translation id="3866530186104388232">หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงผู้ใช้ที่มีอยู่บนหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้และอนุญาตให้เลือกผู้ใช้ได้ หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะใช้ชื่อในหน้าต่างสอบถามชื่อผู้ใช้/รหัสผ่านสำหรับการลงชื่อเข้าใช้
@@ -723,9 +722,9 @@
<translation id="4052765007567912447">ควบคุมว่าผู้ใช้จะสามารถแสดงรหัสผ่านเป็นข้อความที่ชัดเจนในตัวจัดการรหัสผ่านหรือไม่ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ตัวจัดการรหัสผ่านจะไม่อนุญาตให้แสดงรหัสผ่านที่เก็บไว้เป็นข้อความที่ชัดเจนในหน้าต่างตัวจัดการรหัสผ่าน หากคุณเปิดใช้งานหรือไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะสามารถดูรหัสผ่านของตนเป็นข้อความที่ชัดเจนในตัวจัดการรหัสผ่านได้</translation>
<translation id="4056910949759281379">ปิดใช้งานโปรโตคอล SPDY</translation>
<translation id="4088589230932595924">บังคับใช้โหมดไม่ระบุตัวตน</translation>
-<translation id="4088983553732356374">ให้คุณตั้งค่าว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ตั้งค่าข้อมูลในเครื่องไหม การตั้งค่าข้อมูลในเครื่องอาจเป็นการอนุญาตเว็บไซต์ทั้งหมดหรือปฏิเสธเว็บไซต์ทั้งหมด
+<translation id="4088983553732356374">ให้คุณตั้งค่าว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ตั้งค่าข้อมูลในเครื่องไหม โดยสามารถอนุญาตทุกเว็บไซต์หรือปฏิเสธทุกเว็บไซต์ในการตั้งค่าข้อมูลในเครื่อง
- หากตั้งค่านโยบายเป็น "เก็บคุกกี้ไว้ภายในช่วงเวลาของเซสชัน" ระบบจะล้างคุกกี้เมื่อเซสชันปิด โปรดทราบว่าหากเรียกใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใน "โหมดทำงานในพื้นหลัง" เซสชันอาจไม่ปิดเมื่อคุณปิดหน้าต่างสุดท้าย โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดค่าลักษณะการทำงานนี้ได้จากนโยบาย "BackgroundModeEnabled"
+ หากตั้งค่านโยบายเป็น "เก็บคุกกี้ไว้ภายในช่วงเวลาของเซสชัน" ระบบจะล้างคุกกี้เมื่อเซสชันปิดลง โปรดทราบว่าหาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> ทำงานใน "โหมดพื้นหลัง" เซสชันอาจไม่ปิดเมื่อคุณปิดหน้าต่างบานสุดท้าย โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดค่าลักษณะการทำงานนี้ได้จากนโยบาย "BackgroundModeEnabled"
หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะนำ "AllowCookies" มาใช้ และผู้ใช้จะสามารถเปลี่ยนแปลงค่าได้</translation>
<translation id="410478022164847452">ระบุระยะเวลาก่อนตอบสนองการไม่มีการใช้งานเมื่อไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ขณะใช้ไฟ AC
@@ -737,7 +736,7 @@
<translation id="4121350739760194865">ป้องกันไม่ให้การส่งเสริมของแอปพลิเคชันไปปรากฏบนหน้าแท็บใหม่</translation>
<translation id="4147054660081653009">ใบรับรองไคลเอ็นต์สำหรับการเชื่อมต่อกับ RemoteAccessHostTokenValidationUrl
- หากตั้งค่านโยบายนี้ โฮสต์จะใช้ใบรับรองไคลเอ็นต์ที่มีผู้ออกใบรับรอง CN ที่กำหนดให้ตรวจสอบสิทธิ์ RemoteAccessHostTokenValidationUrl ตั้งค่าเป็น "*" เพื่อใช้ใบรับรองไคลเอ็นต์ทั้งหมดที่สามารถใช้งานได้
+ หากตั้งค่านโยบายนี้ โฮสต์จะใช้ใบรับรองไคลเอ็นต์ที่มีผู้ออกใบรับรอง CN ที่กำหนดเพื่อตรวจสอบสิทธิ์ RemoteAccessHostTokenValidationUrl ตั้งค่าเป็น "*" เพื่อใช้ใบรับรองไคลเอ็นต์ทั้งหมดที่สามารถใช้งานได้
คุณลักษณะนี้ปิดใช้งานบนฝั่งเซิร์ฟเวอร์อยู่ในขณะนี้</translation>
<translation id="4157003184375321727">รายงานรุ่นของระบบปฏิบัติการและเฟิร์มแวร์</translation>
@@ -767,8 +766,8 @@
นโยบายนี้เป็นที่ยอมรับเฉพาะในกรณีที่นโยบาย "DefaultSearchProviderEnabled" ถูกเปิดใช้</translation>
<translation id="4320376026953250541">Microsoft Windows XP SP2 หรือใหม่กว่า</translation>
<translation id="4325690621216251241">เพิ่มปุ่มออกจากระบบลงในถาดระบบ</translation>
-<translation id="4337944790873898250">หากตั้งค่านโยบายเป็น True <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะขยายหน้าต่างแรกที่แสดงขึ้นเมื่อใช้งานครั้งแรกโดยไม่มีเงื่อนไข
- หากตั้งค่านโยบายเป็น False หรือไม่ได้ตั้งค่า การเรียนรู้ของระบบจะกำหนดการปรับขนาดของหน้าต่างแรกที่ปรากฏให้ใหญ่ที่สุด โดยยึดตามขนาดของหน้าจอ</translation>
+<translation id="4337944790873898250">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น True <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะขยายหน้าต่างแรกที่แสดงขึ้นเมื่อใช้งานครั้งแรกโดยไม่มีเงื่อนไข
+ หากตั้งค่านโยบายเป็น False หรือไม่ได้ตั้งค่า การเรียนรู้ของระบบจะตัดสินใจว่าจะขยายขนาดของหน้าต่างแรกที่ปรากฏหรือไม่ โดยพิจารณาจากขนาดหน้าจอ</translation>
<translation id="436581050240847513">รายงานอินเทอร์เฟซเครือข่ายของอุปกรณ์</translation>
<translation id="4372704773119750918">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้องค์กรเป็นส่วนหนึ่งของหลายโปรไฟล์ (หลักหรือรอง)</translation>
<translation id="4377599627073874279">อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดแสดงภาพทั้งหมด</translation>
@@ -968,11 +967,11 @@
หากคุณตั้งนโยบายนี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือใช้รูปอวาตาร์อื่น
หากไม่ได้ตั้งนโยบายนี้ ผู้ใช้จะสามารถเลือกรูปอวาตาร์ของตนเองบนหน้าจอเข้าสู่ระบบ</translation>
-<translation id="5302612588919538756">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว ลองพิจารณาการใช้ SyncDisabled แทน
+<translation id="5302612588919538756">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว ลองพิจารณาใช้ SyncDisabled แทน
อนุญาตให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" />
- หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ คุณสามารถกำหนดค่าว่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไหม การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "False" จะเป็นการปิดกั้นแอปและส่วนขยายที่ใช้ chrome.identity API ไม่ให้ทำงาน ดังนั้น คุณอาจต้องการใช้ SyncDisabled แทน</translation>
+ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ คุณสามารถกำหนดค่าว่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไหม การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "False" จะเป็นการป้องกันแอปและส่วนขยายที่ใช้ chrome.identity API ไม่ให้ทำงาน ดังนั้น คุณอาจต้องการใช้ SyncDisabled แทน</translation>
<translation id="5304269353650269372">ระบุระยะเวลาที่ไม่มีอินพุตของผู้ใช้หลังจากที่ช่องโต้ตอบคำเตือนปรากฏขึ้นเมื่อใช้งานบนกำลังแบตเตอรีที่ต่ำ
เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่ใช้งานก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงช่องโต้ตอบคำเตือนที่แจ้งผู้ใช้ว่าการดำเนินการแบบไม่ใช้งานกำลังจะเกิดขึ้น
@@ -1126,7 +1125,7 @@
นโยบายนี้จะทำงานเมื่อตั้งค่านโยบาย "RestoreOnStartup" เป็น "RestoreOnStartupIsURLs" เท่านั้น
- นโยบายนี้ไม่สามารถใช้งานกับอินสแตนซ์ Windows ที่ไม่เข้าร่วม
+ นโยบายนี้ไม่สามารถใช้งานกับอินสแตนซ์ของ Windows ที่ไม่เข้าร่วม
โดเมน Active Directory</translation>
<translation id="5887414688706570295">กำหนดค่าส่วนนำหน้าของ TalkGadget ที่จะถูกใช้โดยโฮสต์การเข้าถึงระยะไกลและป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ทำการเปลี่ยนแปลง
@@ -1202,11 +1201,11 @@
<translation id="6155936611791017817">ตั้งค่าสถานะเริ่มต้นของเคอร์เซอร์ขนาดใหญ่บนหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation>
<translation id="6157537876488211233">รายการกฎการข้ามพร็อกซีที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค</translation>
<translation id="6158324314836466367">ชื่อเว็บสโตร์ขององค์กร (เลิกใช้งาน)</translation>
-<translation id="6167074305866468481">คำเตือน: การสนับสนุน SSLv3 จะถูกนำออกจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> ทั้งหมดหลังจากเวอร์ชัน 43 (ประมาณเดือนกรกฎาคม 2015) และนโยบายนี้จะถูกนำออกไปพร้อมกัน
+<translation id="6167074305866468481">คำเตือน: การสนับสนุน SSLv3 จะถูกนำออกจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> ทั้งหมดหลังจากเวอร์ชัน 43 (ประมาณเดือนกรกฎาคม 2015) และนโยบายนี้จะถูกนำออกไปพร้อมกันด้วย
- หากไม่ได้กำหนดค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้เวอร์ชันเริ่มต้นต่ำสุด ซึ่งก็คือ SSLv3 ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 39 และ TLS 1.0 ในเวอร์ชันถัดไป
+ หากไม่ได้กำหนดค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้เวอร์ชันขั้นต่ำที่เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งก็คือ SSLv3 ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 39 และ TLS 1.0 ในเวอร์ชันถัดไป
- มิฉะนั้น อาจถูกกำหนดเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้ "sslv3", "tls1", "tls1.1" หรือ "tls1.2" เมื่อตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ใช้ SSL/TLS ในเวอร์ชันต่ำกว่าที่กำหนด และจะเพิกเฉยค่าที่ระบบไม่รู้จัก
+ หรือถ้ากำหนดค่านโยบาย อาจกำหนดเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้ "sslv3", "tls1", "tls1.1" หรือ "tls1.2" เมื่อกำหนดแล้ว <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ใช้ SSL/TLS ในเวอร์ชันต่ำกว่าที่กำหนด และจะเพิกเฉยต่อค่าที่ระบบไม่รู้จัก
โปรดทราบว่า "sslv3" เป็นเวอร์ชันที่เก่ากว่า "tls1" แม้ตัวเลขจะมากกว่า</translation>
<translation id="6177482277304066047">ตั้งค่ารุ่นเป้าหมายสำหรับการอัปเดตอัตโนมัติ
@@ -1240,18 +1239,18 @@
<translation id="6258193603492867656">ระบุว่า Kerberos SPN ที่สร้างขึ้นควรจะรวมพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐานไว้หรือไม่ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้และป้อนพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐาน (เช่น พอร์ตอื่นๆ นอกจาก 80 หรือ 443) เข้าไป พอร์ตดังกล่าวจะถูกรวมไว้ใน Kerberos SPN ที่สร้างขึ้น หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้หรือปล่อยให้ไม่มีการตั้งค่า Kerberos SPN ที่สร้างขึ้นจะไม่รวมพอร์ตไม่ว่าในกรณีใดๆ</translation>
<translation id="6279809962528392889">ระบุว่าควรโอนคุกกี้การตรวจสอบสิทธิ์ที่กำหนดโดย SAML IdP ในขณะลงชื่อเข้าใช้ไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้ไหม
- เมื่อผู้ใช้ตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน SAML IdP ในขณะลงชื่อเข้าใช้ คุกกี้ที่กำหนดโดย IdP จะเขียนลงในโปรไฟล์ชั่วคราวก่อน คุกกี้เหล่านี้สามารถโอนไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้เพื่อส่งต่อสถานะการตรวจสอบสิทธิ์
+ เมื่อผู้ใช้ตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน SAML IdP ในขณะลงชื่อเข้าใช้ คุกกี้ที่กำหนดโดย IdP จะเขียนลงในโปรไฟล์ชั่วคราวก่อน คุกกี้เหล่านี้สามารถโอนไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้เพื่อส่งต่อสถานะการตรวจสอบสิทธิ์ได้
เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น True คุกกี้ที่กำหนดโดย IdP จะถูกโอนไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้ทุกครั้งที่ผู้ใช้ตรวจสอบสิทธิ์กับ SAML IdP ในขณะลงชื่อเข้าใช้
- เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น False หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะโอนคุกกี้ที่กำหนดโดย IdP ไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้ในระหว่างการลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์ครั้งแรกของผู้ใช้เท่านั้น
+ เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น False หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะโอนคุกกี้ที่กำหนดโดย IdP ไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้ในระหว่างการลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์เป็นครั้งแรกของผู้ใช้เท่านั้น
- นโยบายนี้มีผลต่อผู้ใช้ที่มีโดเมนตรงกับโดเมนการลงทะเบียนของอุปกรณ์เท่านั้น สำหรับผู้ใช้คนอื่นๆ ทั้งหมด คุกกี้ที่กำหนดโดย IdP จะถูกโอนไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้ในระหว่างการลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์ครั้งแรกของผู้ใช้เท่านั้น</translation>
+ นโยบายนี้มีผลต่อผู้ใช้ที่มีโดเมนตรงกับโดเมนการลงทะเบียนของอุปกรณ์เท่านั้น สำหรับผู้ใช้คนอื่นๆ ทั้งหมด คุกกี้ที่กำหนดโดย IdP จะถูกโอนไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้ในระหว่างการลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์เป็นครั้งแรกของผู้ใช้เท่านั้น</translation>
<translation id="6281043242780654992">กำหนดค่านโยบายสำหรับการรับส่งข้อความดั้งเดิม โฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมที่อยู่ในบัญชีดำจะไม่ได้รับอนุญาตเว้นเสียแต่ว่าจะถูกกำหนดให้อยู่ในรายการที่อนุญาตพิเศษ</translation>
<translation id="6282799760374509080">อนุญาตหรือปฏิเสธการจับเสียง</translation>
<translation id="6284362063448764300">TLS 1.1</translation>
<translation id="6310223829319187614">เปิดใช้การเติมชื่อโดเมนอัตโนมัติระหว่างการลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้</translation>
-<translation id="6315673513957120120">Chrome จะแสดงหน้าคำเตือนนี้เมื่อผู้ใช้นำทางไปยังเว็บไซต์ที่มีข้อผิดพลาด SSL โดยค่าเริ่มต้นหรือเมื่อตั้งค่านโยบายเป็น True ผู้ใช้สามารถคลิกผ่านหน้าคำเตือนเหล่านี้ได้
+<translation id="6315673513957120120">Chrome จะแสดงหน้าคำเตือนเมื่อผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีข้อผิดพลาด SSL ทั้งนี้โดยค่าเริ่มต้นหรือเมื่อตั้งค่านโยบายเป็น True ผู้ใช้สามารถคลิกผ่านหน้าคำเตือนเหล่านี้ได้
การตั้งค่านโยบายนี้เป็น False จะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้คลิกผ่านหน้าคำเตือนใดๆ</translation>
<translation id="6353901068939575220">ระบุพารามิเตอร์ที่ใช้เมื่อค้นหา URL ด้วย POST ซึ่งประกอบด้วยคู่ชื่อ/ค่าที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค หากค่าเป็นพารามิเตอร์เทมเพลต เช่น {searchTerms} ในตัวอย่างข้างต้น ค่าจะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลข้อความค้นหาที่แท้จริง
@@ -1284,7 +1283,8 @@
<translation id="6401669939808766804">ออกจากระบบให้ผู้ใช้</translation>
<translation id="6417861582779909667">ช่วยให้คุณกำหนดรายการของรูปแบบ URL ที่ระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งค่าคุกกี้ หากนโยบายนี้ไม่มีการตั้งค่าไว้ จะใช้ค่าเริ่มต้นของทั่วโลกสำหรับไซต์ทั้งหมด ทั้งจากนโยบาย "DefaultCookiesSetting" หากมีการตั้งค่าไว้ หรือจากการกำหนดค่าส่วนบุคคลของผู้ใช้</translation>
<translation id="6467433935902485842">ช่วยให้คุณกำหนดรายการของรูปแบบ URL ที่ระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ปลั๊กอิน หากนโยบายนี้ไม่มีการตั้งค่าไว้ จะใช้ค่าเริ่มต้นทั่วไปสำหรับไซต์ทั้งหมด ทั้งจากนโยบาย "DefaultPluginsSetting" หากมีการตั้งค่าไว้ หรือจากการกำหนดค่าส่วนบุคคลของผู้ใช้</translation>
-<translation id="6473334971332473690">อนุญาตให้ใช้ Smart Lock บนอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" />
+<translation id="6473334971332473690">อนุญาตให้ใช้ Smart Lock บนอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" />
+
หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้สามารถใช้ Smart Lock ได้หากปฏิบัติตามข้อกำหนดของคุณลักษณะนี้
@@ -1453,15 +1453,15 @@
หากคุณเลือก "เปิดหน้าแท็บใหม่" หน้าแท็บใหม่จะเปิดขึ้นทุกครั้งที่คุณเริ่มต้น <ph name="PRODUCT_NAME" />
หากคุณเลือก "คืนค่าเซสชันล่าสุด" URL ที่เปิดไว้เมื่อปิด <ph name="PRODUCT_NAME" /> ครั้งสุดท้ายจะเปิดขึ้นอีกครั้ง และระบบจะคืนค่าเซสชันการท่องเว็บให้เหมือนที่เคยเปิดไว้
- การเลือกตัวเลือกนี้จะปิดใช้การตั้งค่าบางอย่างที่ใช้เซสชันหรือที่ดำเนินการดังกล่าวเมื่อออก (เช่น ล้างข้อมูลการท่องเว็บเมื่อออกหรือล้างเฉพาะคุกกี้ในเซสชัน)
+ การเลือกตัวเลือกนี้จะปิดใช้การตั้งค่าบางอย่างที่ใช้เซสชันหรือที่ทำงานต่างๆ เมื่อออก (เช่น ล้างข้อมูลการท่องเว็บเมื่อออกหรือล้างคุกกี้ที่เก็บเฉพาะในเซสชัน)
หากคุณเลือก "เปิดรายการ URL" รายการ "URL ที่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นระบบ" จะเปิดขึ้นมาเมื่อผู้ใช้เริ่มต้น <ph name="PRODUCT_NAME" />
- หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือลบล้างข้อมูลที่อยู่ใน <ph name="PRODUCT_NAME" />
+ หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือลบล้างการตั้งค่านี้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" />
การปิดใช้การตั้งค่านี้มีค่าเท่ากับการไม่กำหนดค่าใดๆ ผู้ใช้ยังคงสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าได้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" />
- นโยบายนี้ไม่สามารถใช้ได้กับค่าอินสแตนซ์ของ Windows ที่ไม่เข้าร่วม
+ นโยบายนี้ไม่สามารถใช้ได้กับอินสแตนซ์ของ Windows ที่ไม่เข้าร่วม
โดเมน Active Directory</translation>
<translation id="7128918109610518786">แสดงรายการตัวระบุแอปพิเคชันที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> แสดงเป็นแอปพลิเคชันที่ตรึงในแถบตัวเรียกใช้งาน
@@ -1637,11 +1637,11 @@
หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ระบบจะไม่ดำเนินการค้นหาเมื่อผู้ใช้พิมพ์ข้อความที่ไม่ใช่ URL ลงในแถบอเนกประสงค์
- หากเปิดหรือปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนหรือเขียนทับการตั้งค่านี้ได้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" />
+ หากเปิดหรือปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือลบล้างการตั้งค่านี้ได้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" />
หากไม่ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้ผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น ผู้ใช้จะสามารถตั้งค่ารายชื่อผู้ให้บริการการค้นหา
- นโยบายนี้ไม่สามารถใช้กับอินสแตนซ์ Windows ที่ไม่เข้าร่วม
+ นโยบายนี้ไม่สามารถใช้กับอินสแตนซ์ของ Windows ที่ไม่เข้าร่วม
โดเมน Active Directory</translation>
<translation id="7937766917976512374">อนุญาตหรือปฏิเสธการจับวิดีโอ</translation>
<translation id="7941975817681987555">อย่าคาดการณ์การทำงานของเครือข่ายจากการเชื่อมต่อเครือข่ายใดๆ</translation>
@@ -1745,13 +1745,13 @@
หน้าแรกคือหน้าที่เปิดด้วยปุ่มหน้าแรก หน้าที่เปิดเมื่อเริ่มต้นระบบจะควบคุมด้วยนโยบาย RestoreOnStartup
- ประเภทของหน้าแรกอาจตั้งค่าให้เป็น URL ที่กำหนดไว้ที่นี่ หรือตั้งเป็นหน้าแท็บใหม่ หากเลือกหน้าแท็บใหม่ นโยบายนี้จะไม่มีผลใดๆ
+ ประเภทของหน้าแรกอาจตั้งค่าเป็น URL ที่คุณกำหนดไว้ที่นี่ หรือตั้งเป็นหน้าแท็บใหม่ก็ได้ หากเลือกหน้าแท็บใหม่ นโยบายนี้จะไม่มีผลใดๆ
- หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยน URL ของหน้าแรกใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> แต่ยังสามารถเลือกหน้าแท็บใหม่ให้เป็นหน้าแรกได้
+ หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยน URL หน้าแรกของตนใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> แต่ยังสามารถเลือกหน้าแท็บใหม่เป็นหน้าแรกได้
- หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะสามารถเลือกหน้าแรกด้วยตนเองได้หากยังไม่ได้ตั้งค่า HomepageIsNewTabPage ไว้ด้วย
+ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะสามารถเลือกหน้าแรกได้เองหาก HomepageIsNewTabPage ก็ยังไม่ได้ตั้งค่าไว้ด้วย
- นโยบายนี้ไม่สามารถใช้ได้กับค่าอินสแตนซ์ของ Windows ที่ไม่เข้าร่วม
+ นโยบายนี้ไม่สามารถใช้ได้กับอินสแตนซ์ของ Windows ที่ไม่เข้าร่วม
โดเมน Active Directory</translation>
<translation id="8244525275280476362">การหน่วงเวลาสูงสุดในการดึงข้อมูลภายหลังการลบล้างนโยบาย</translation>
<translation id="8256688113167012935">ควบคุมชื่อบัญชี <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่แสดงในหน้าลงชื่อเข้าใช้สำหรับบัญชีภายในอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกัน
@@ -1851,7 +1851,7 @@
หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งาน จะไม่สามารถลบประวัติการเข้าชมและการดาวน์โหลดได้</translation>
<translation id="8764119899999036911">กำหนดว่า Kerberos SPN ที่สร้างจะอยู่บนพื้นฐานของชื่อ DNS มาตรฐานหรือชื่อเดิมที่ป้อนไว้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหา CNAME จะถูกข้ามไปและจะใช้ชื่อเซิร์ฟเวอร์ตามที่ป้อน หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้หรือปล่อยไว้ไม่ได้ตั้งค่า ชื่อมาตรฐานของเซิร์ฟเวอร์จะถูกกำหนดโดยผ่านการค้นหา CNAME</translation>
<translation id="8777120694819070607">อนุญาตให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เรียกใช้ปลั๊กอินที่เก่าแล้ว หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปลั๊กอินเก่าจะถูกนำมาใช้เป็นปลั๊กอินปกติ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปลั๊กอินเก่าจะไม่ถูกใช้ และระบบจะไม่สอบถามสิทธิ์ในการเรียกใช้ปลั๊กอินเก่าจากผู้ใช้ หากคุณไม่ได้กำหนดการตั้งค่านี้ ระบบจะสอบถามสิทธิ์ในการเรียกใช้ปลั๊กอินเก่าจากผู้ใช้</translation>
-<translation id="87812015706645271">กำหนดว่าชื่อผู้ใช้เครื่องและเจ้าของโฮสต์การเข้าถึงระยะไกลต้องตรงกัน</translation>
+<translation id="87812015706645271">กำหนดว่าชื่อผู้ใช้ในเครื่องและเจ้าของโฮสต์การเข้าถึงระยะไกลต้องตรงกัน</translation>
<translation id="8782750230688364867">ระบุเปอร์เซ็นต์ของระดับการปรับการหน่วงเวลาการสลัวหน้าจอเมื่ออุปกรณ์อยู่ในโหมดการนำเสนอ
หากนโยบายนี้มีการตั้งค่า นโยบายจะระบุเปอร์เซ็นต์ของระดับการปรับการหน่วงเวลาการสลัวหน้าจอเมื่ออุปกรณ์อยู่ในโหมดการนำเสนอ เมื่อมีการปรับระดับการหน่วงเวลาการสลัวหน้าจอ การปิดหน้าจอปิด การล็อกหน้าจอ และการหน่วงเวลาของการไม่ใช้งานจะได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อรักษาระยะจากการหน่วงเวลาการสลัวหน้าจอให้อยู่ในระดับเดียวกันกับค่ากำหนดเดิม
@@ -1877,13 +1877,13 @@
<translation id="8858642179038618439">บังคับใช้โหมดปลอดภัยของ YouTube</translation>
<translation id="8864975621965365890">ระงับการแจ้งเรื่องการปฏิเสธ ซึ่งจะปรากฏขึ้นเมื่อไซต์แสดงผลโดย <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /></translation>
<translation id="8870318296973696995">หน้าแรก</translation>
-<translation id="8905426178924715309">นโยบายนี้เลิกใช้แล้ว โปรดใช้ ForceGoogleSafeSearch และ ForceYouTubeSafetyMode แทน ระบบจะไม่สนใจนโยบายนี้หากตั้งค่านโยบายเป็น ForceGoogleSafeSearch หรือ ForceYouTubeSafetyMode
+<translation id="8905426178924715309">นโยบายนี้เลิกใช้แล้ว โปรดใช้ ForceGoogleSafeSearch และ ForceYouTubeSafetyMode แทน ระบบจะไม่สนใจนโยบายนี้หากมีการตั้งค่านโยบาย ForceGoogleSafeSearch หรือ ForceYouTubeSafetyMode ไว้
- บังคับให้ดำเนินการคำค้นหาใน Google ค้นเว็บโดยตั้งค่าค้นหาปลอดภัยให้ทำงาน และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ การตั้งค่าดังกล่าวยังบังคับใช้โหมดปลอดภัยบน YouTube ด้วย
+ บังคับให้เปิดใช้การค้นหาปลอดภัยเมื่อค้นหาใน Google ค้นเว็บ และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ การตั้งค่าดังกล่าวยังบังคับใช้โหมดปลอดภัยบน YouTube ด้วย
- หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ค้นหาปลอดภัยใน Google Search และ YouTube จะทำงานตลอดเวลา
+ หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ ค้นหาปลอดภัยใน Google Search และ YouTube จะทำงานเสมอ
- หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้หรือไม่ได้กำหนดค่า ระบบจะไม่นำค้นหาปลอดภัยใน Google Search และ YouTube มาใช้</translation>
+ หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้หรือไม่ได้กำหนดค่า จะไม่มีการบังคับใช้ค้นหาปลอดภัยใน Google Search และ YouTube</translation>
<translation id="8906768759089290519">เปิดใช้งานโหมดผู้มาเยือน</translation>
<translation id="8908294717014659003">อนุญาตให้คุณตั้งค่าว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์เข้าถึงอุปกรณ์จับสื่อภาพ/เสียงหรือไม่ การเข้าถึงอุปกรณ์จับสื่อภาพ/เสียงอาจได้รับอนุญาตโดยค่าเริ่มต้น หรือผู้ใช้สามารถรับข้อความสอบถามทุกๆ ครั้งที่เว็บไซต์ต้องการเข้าถึงอุปกรณ์จับสื่อภาพ/เสียง
@@ -1907,7 +1907,7 @@
การรักษาความปลอดภัยของ URL ที่ขอ หากพบว่าตรงกัน ระบบจะอนุญาตให้
เข้าถึงอุปกรณ์จับเสียงโดยไม่แจ้งเตือน
- หมายเหตุ: จนถึงเวอร์ชัน 45 นโยบายนี้จะสนับสนุนในโหมดคีออสก์เท่านั้น</translation>
+ หมายเหตุ: ใช้นโยบายนี้ได้ในโหมดคีออสก์เท่านั้นจนถึงเวอร์ชัน 45</translation>
<translation id="8965758116018152083">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นสตริงเปล่าหรือไม่ได้กำหนดค่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่แสดงตัวเลือกเติมข้อความอัตโนมัติในระหว่างขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้
หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นสตริงที่แสดงชื่อโดเมน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงตัวเลือกเติมข้อความอัตโนมัติในขณะที่ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ โดยอนุญาตให้ผู้ใช้พิมพ์เฉพาะชื่อผู้ใช้โดยไม่ต้องมีส่วนขยายชื่อโดเมน ผู้ใช้สามารถเขียนทับส่วนขยายชื่อโดเมนนี้ได้</translation>
<translation id="8970205333161758602">ระงับการแจ้งเตือนการปฏิเสธของ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /></translation>
@@ -1921,7 +1921,7 @@
<translation id="9104138886225968319">ส่งฮาร์ตบีตตรวจสอบไปยังเซิร์ฟเวอร์การจัดการ เพื่ออนุญาตให้
เซิร์ฟเวอร์ตรวจดูว่าอุปกรณ์ออฟไลน์อยู่ไหม
- หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น True ระบบจะส่งฮาร์ตบีตตรวจสอบ ถ้าตั้งค่า
+ หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น True ระบบจะส่งฮาร์ตบีตตรวจสอบ หากตั้งค่า
เป็น False หรือไม่ตั้งค่า ระบบจะไม่ส่งฮาร์ตบีต</translation>
<translation id="9112897538922695510">อนุญาตให้คุณลงทะเบียนรายชื่อเครื่องจัดการโปรโตคอล ซึ่งจะแนะนำได้โดยนโยบายเท่านั้น ต้องมีการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ |protocol| ในรูปแบบ เช่น "mailto" และต้องมีการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ |url| ในรูปแบบ URL ของแอปพลิเคชันที่จัดการรูปแบบดังกล่าว รูปแบบอาจมี "%s" ซึ่งจะแทนที่ด้วย URL ที่มีการจัดการหากปรากฏขึ้น